Coronavirus ตลาดหุ้นทั่วโลกพบกับความสูญเสียครั้งประวัติศาสตร์ในช่วงสามเดือนแรกของปีท่ามกลางการขายจำนวนมหาศาลที่ผลมาจาก Coronavirus ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์และค่าดัชนี FTSE 100 ของลอนดอน นั้นลดลงมากที่สุดทุกไตรมาสตั้งแต่ปี2530 ลดลง 23 % และ 25% ตามลำดับ
S&P 500 แพ้ 20% ในระหว่างไตรมาสซึ่งแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551
นักเศรษฐศาสตร์ได้เคยเตือนไว้ว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะเลวร้ายยิ่งกว่าวิกฤตการณ์ทางการเงินโดยนักพยากรณ์ของ IHS Markit มีการคาดการณ์ว่าการเติบโตจะหดตัว 2.8% ในปีนี้เมื่อเทียบกับที่ลดลง 1.7% ในปี 2552 ไม่มีประเทศใดถูกทิ้งให้แตะต้อง บริษัท ข้อมูลคาดการณ์ว่าการเติบโตของประเทศจีนจะขยายตัวถึง 2% ในขณะที่สหราชอาณาจักรจะเห็นการเติบโตลดลง 4.5% แนวโน้มของประเทศต่าง ๆ เช่นประเทศอิตาลีและประเทศที่พัฒนาน้อยกว่านั้นยิ่งสถานการ์ณเลวร้ายลงไปอีก
Barcelona เมสซี่นำทัพตัดสินใจยอมลดค่าเหนื่อย 70 เปอร์เซ็นต์
ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาคนหนึงได้วิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าอัตราการว่างงานอาจเพิ่มขึ้นมากกว่า 32% ในช่วงสามเดือนข้างหน้าเนื่องจากมีผู้เสียงานกว่า 47 ล้านคน และทั่วโลกดัชนีจำนวนมากยังคงต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี ราคาน้ำมันที่สูงชันเนื่องจากความต้องการลดลงและสงครามราคาระหว่างผู้ผลิตทำให้ปัญหาทางการเงินในตลาดคลี่คลาย
ในวันอังคารที่ผ่านมาดัชนี FTSE เพิ่มขึ้นเกือบ 2% ในขณะที่ แด็ก ของเยอรมนีและ CAC 40 ของฝรั่งเศสมีกำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ดัชนีสหรัฐหลักสะดุดเมื่อดัชนีดาวโจนส์ลดลง 1.8%, ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.6% และดัชนีแนสแด็กลดลงเกือบ 1%
บริษัท การเงินและพลังงานอยู่ในกลุ่มที่มีผลประกอบการแย่ที่สุดในไตรมาสนี้ ผู้ค้าปลีกยอดขายหาย เมื่อถูกปิดร้านค้าส่งผลกระทบครั้งยิ่งใหญ่ ในวันอังคาร Macy’s ลดลงเกือบ 9% แม้จะมีการกระตุ้นทางการเงินและการเงินเราคาดว่าความผันผวนของตลาดหุ้นจะยังคงอยู่ในระดับสูงตราบใดที่สถานการ์ณของ Coronavirus ยังไม่แน่นอน ราคาน้ำมันก็ยังคงถูกกดดัน
Credit : ufabet